“Grounding” : คืออะไร มีประโยชน์ยังไง แล้วต้องทำอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง???
การ Grounding คืออะไร : ถ้าแปลตรงตัว ก็คือ การต่อสายดิน เพื่อแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้าบวก ที่ค้างในร่างกาย ลงสู่พื้นโลก และเปิดรับประจุไฟฟ้าลบ Electron ให้ไหลเข้าสู่ร่างกาย
ส่วนความหมายทางจิตวิญญาณ คือการระลึก ดึงสติให้กลับมาอยู่ที่ปัจจุบัน กลับมายังฐานภายในกาย เพื่อปรับออกความสับสน ความวิตกกังวล
ทำไมถึงต้อง Grounding : ถ้าเราเชื่อเรื่องพลังงาน ทุกอย่างที่เป็นสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ มีพลังงานเป็นของตัวเอง แหล่งขุมพลังงานธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด คือ พลังงานของ Mother Earth พลังงานของพื้นโลกเรานี่เอง ที่มอบพลังงานเยียวยา โอบกอดเรา ดุขแต่ในสังคมปัจจุบัน เราเหมือนดอกไม้ที่โดนตัดออกจากต้น แกนพลังงานของโลก เราแทบจะไม่ได้สัมผัสพื้นดิน พื้นทราย ต้นไม้ โคลนตม เราสวมใส่รองเท้าตลอดเวลา เราแทบไม่เคยถอดรองเท้าเดิน หรือนั่งบนรากไม้ ต้นไม้ใหญ่ เหตุผลคงคล้ายๆกัน เรากลัวเลอะ กลัวสัตว์ ผู้เขียนตรวจดูตัวเอง ในแต่ละเดือน แทบจะไม่เลย ไปสวนสาธารณะ ไม่เคยถอดรองเท้าเดินบนหญ้า หรือพื้นดิน พื้นโลกเลย นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนในยุคนี้ต้องเผชิญกับ โรคที่เกี่ยวกับความคิด ความวิตกกังวล อาการสามาธิสั้น อาการจับจด ไม่สามารถอดทนรออะไรได้นานๆ ทำให้พลาดความสำเร็จที่ยังยืนได้ อาการเหล่านี้ ผู้เขียนคิดว่า ถ้าเราเปิดใจ เราจะพบเห็นได้ชัดเจนมาก หนทางแก้ไข เพื่อบำบัดอาการเหล่านี้นั้นอาจไม่ยาก อย่างที่คิด เพียงแต่เราต้องพาตัวเองกลับคืนสู่พลังงานธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ปราศจากการปรุงแต่ง ก็คือ พื้นดิน พื้นน้ำ พื้นโลก ของเรา ง่ายๆเพียงแค่นี้เอง
ใครที่เหมาะกับการทำ Grounding :
· สิ่งมีชีวิตทุกชีวิต ที่มีคลื่นพลังงานไหลเวียน ในร่างกาย สามารถทำการ Grounding ได้ทั้งหมด
· ผู้ที่ฝึกปฏิบัติจิต เดินทางจิตวิญญาณ เกิดเดินจิตไปยังมิติอื่นๆ เมื่อฝึกฝนเส้นทาง ทางจิตวิญญาณแล้ว ต้องทำการ Grounding เพื่อดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบันทุกครั้ง เพราะ เราต้องมีรากฐานที่มั่นคงเสียก่อนที่จะเดินทางออกไปเรียนรู้ยังศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ
· ผู้ที่ต้องเผชิญปัญหาทางอารมณ์ ความไม่มั่นคงในตัวเอง ความคิดสับสน ชอบเพ้อฝัน ล่องลอยไปกับจินตนาการ แต่ไม่สามารถลงมือทำให้สำเร็จ บำบัดอาการซึมเศร้า อาการวิตกจริต
· ผู้ที่มีอาการเจ็บปวดทางกาย ปวดเมื่อย นอนยาก การปรับออกพลังงานบวกที่เกิดจากความเครียด การเจ็บป่วย และซึมซับElectron ปะจุลบ สามารถช่วยให้ร่างกายมีกำลังที่จะขับออกสารพิษที่ค้าง ช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัว ซ่อมแซมตัวเองได้เป็นอย่างดี
แนวทางในการ Grounding ตัวเอง :
ทางกายภาพ : เริ่มต้นด้วยการหยุดการใช้งานมือถือ internet พาตัวเองออกจากโลกเสมือน แล้วพาตัวเองไปสัมผัสโลกที่แท้จริง พาตัวเองออกไป สัมผัสธรรมชาติ ถอดรองเท้าเดินบนดิน บนหญ้า บนทราย สัมผัสสายลม แสงแดด สายน้ำ ด้วยมือ และเท้าของเรา ให้คลื่นพลังงานของแม่พระธรณี ได้เยียวยา และเติมกลับพลังงานสะอาดสดใส เรียนรู้ที่จะหยุด ฟัง สังเกตุ ธรรมชาติรอบด้าน จะช่วยทำให้เราตื่นรู้ภายในได้อีกด้วย
ทางจิตวิญญาณ :
1. ฝึกทำสมาธิ โดยฝึกกำหนดสติให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ปล่อยให้สติและจิตล่องลอยไปในความคิด หรือมิติอื่นๆ ให้อยู่กับ สภาวะเย็น-ร้อน-อ่อน-แข็ง ในร่างกาย โดยไม่วิเคราะห์ วิจารณ์ แค่เฝ้ามอง การฝึกแบบนี้จะทำให้เรากลับมาอยู่กับขณะปัจจุบันได้ง่าย ร่มเย็น สงบ
* ถ้าออกไปฝึกสมาธิ outdoor ในธรรมชาติ เราสามารถปรับพลังงานได้เห็นผลดียิ่งขึ้น
2. ฝึกการหายใจ โดยหายใจเข้า ให้ลึกลงไปในท้อง หายใจออกให้ยาว ยาวจนลมหมดท้อง ท้องแฟ่บ การฝึกแบบนี้บ่อยๆ ทำให้เราสามารถปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระ เมื่อต้องเผชิญหน้าพายุทางความคิด อารมณ์ โหมกระหน่ำ จนตั้งหลัก ตั้งตัวไม่ถูก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ พยายามเตือนตัวเองให้ หายใจเข้าลึก หายใจออกยาว ผ่านจมูก ทั้งเข้าและออก การฝึกหายใจ สยบความตื่นตะหนกได้ผลดี
3. เชื่อมต่อพลังงานกับหินคริสตัลที่ มีคลื่นความถี่ในการ Grounding : หินคริสตัลในกลุ่มนี้ มีความสามารถในการปลดออกจุดปิดกั้น สนับสนุนการไหลของพลังงานบวกจากพื้นโลก ธรรมชาติ ให้ไหลผ่านเข้าสู่เราใน Root Chakra ซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกมั่นคง สงบ ร่มเย็น รวมศูนย์ ไม่รู้สึกแตกสลาย กระจัดกระจาย
หินคริสตัลที่เหล่านักหินบำบัด นิยมนำมาใช้ในการ Grounding มีดังนี้
I. Black Tourmaline : หินอันดับหนึ่งในการ Grounding ดึงเราพลังงานเรากลับมายังสู่กลาง ในปัจจุบัน ช่วยให้มีสติ มีความมั่นคงในตัวเอง เชื่อมโยงกับพลังงานพื้นโลก เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ฝึกภาวนา เดินทางด้านจิตวิญญาณ
II. Smoky Quartz : เมื่อต้องเผชิญปัญหาด้านความคิด ความกลัว จนทำให้เกิดอาการ Panic Attack พก Smoky Quartz ไว้จะช่วยให้เราตั้งสติปลดตัวเองออกจากการย้ำคิด ก้าวข้ามความกลัวที่เกิดขึ้นในจิตใจ
III. Black Obsidian : ช่วยให้คลื่นพลังงานของเราร่วมศูนย์ เชื่อมต่อร่างกายกับจิตใจให้อยู่ในปัจจุบัน ขจัดพลังงาน
IV. Moss Agate : เชื่อมโยงเรากับพลังงานโลก ปรับให้อารมณ์ร่มเย็น สมดุลย์
V. Shungite : เป็น Grounding Stone ที่ช่วยดึงจิตวิญญาณของเราให้กลับเข้าสู่ฐานในปัจจุบัน
VI. Hematite : ปกป้อง เสริมความหนักแน่น ปรับพลังงานใน Root Chakra ทำให้เราสติเรากลับมาอยู่ในขณะปัจจุบัน
VII. Garnet : เชื่อมโยง ปลุกไฟใน Root Chakra ทำให้เรามีความมั่นคง มั่นใจในตัวเอง ไม่หวั่นไหวง่าย
VIII. Red Jasper : ช่วยให้ดึงเราให้กลับสู่ขณะปัจจุบัน เสริมการเยียวยาตัวเติม เติมกลับความรักตัวเอง
IX. Tiger’s Eye : หินตาเสือ เพื่อปรับสมดุลย์ภายใต้ความโกลาหล ปกป้อง ปัดเป่า ปลุกพลังงานขับเคลื่อนตัวเอง
X. Malachite : หินผู้พิทักษ์ ที่ทำหน้าที่ปัดเป่า ป้องกันพลังงานที่ก่อกวน ทำให้เราสั่นครอน หวั่นไหว วิตกจริต พร้อมช่วยปรับ Heart Chakra ทำให้พลังงานไหลได้ดีขึ้น
XI. Onyx : เมื่อต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลง Onyx ช่วยให้เราสงบ ขจัดความกลัว ความกังวล พฤติกรรมความคิดที่ทำให้ตัวเองเจ็บซ้ำ
XII. Bloodstone : เหมาะสำหรับการฝึกปรับพลังงานใน Base Chakra ทั้ง 3 เพราะ Base Chakra เป็นขุมกำลังของความมั่นคง เราจะ ground ได้ง่าย ไม่ล่องลอย เลือนลอย
ส่งท้าย : ปิดมือถือ ถอดรองเท้า ออกไปสัมผัสธรรมชาติกันคะ ไม่ต้องมีความหมายในการ Grounding แค่ทำแบบนี้ เราก็สดชื่นแล้ว ลองดูนะคะ ผู้เขียนทดลองมาแล้ว มันดีต่อใจมาก พร้อมสู้ทุกศึก
เป็นกำลังใจให้กันทุกวัน
Natnontra…💜